วันอาทิตย์ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

Java : Set Environment On Linux

        สวัสดีครับ บทความนี้เป็นบทความแรกของผม ผมก็มีจุดประสงค์แค่อยากจะทำไว้ดูเอง ^^ กันลืมน่ะครับ อีกอย่างที่ไม่เขียนเป็นภาษาอังกฤษเพราะว่า อยากให้คนไทย(น้อง ๆ นักศึกษา)ที่ไม่ค่อยเก่งภาษาอังกฤษได้ลองทำตามกันง่าย ๆ นะครับ ภาษาอังกฤษหาได้ง่ายครับ เพราะว่าฝรั่งเขียนไว้กันเยอะแล้ว ผมก็แค่เอามาแชร์จากประสบการณ์ที่ได้ใช้ในการทำงานในบริษัท(ฝรั่ง) มาให้คนไทยบ้างน่ะครับ      

        บทความนี้มีไว้สำหรับผู้ที่สนใจและชื่นชอบใน Java (เหมือนผม แบบว่าอยู่ในกระแสเลือดไปแล้ว) หันมาเปลี่ยนบรรยากาศจาก window มาใช้ชีวิตบน Linux กันบ้าง ก็ลองทำตามกันดูนะครับ หวังว่าคงมีพื้นฐานระบบปฎิบัติการ unix กันมาบ้างแล้ว ทีละ step ครับ

1. Download  JDK (Java Development Kit) สำหรับ Linux ซึ่งในบทความนี้จะใช้ jdk-<version>-linux-x64.tar.gz ซึ่งเมื่อดาวน์โหลดเสร็จ ไฟล์จะไปเก็บไว้ที่ Home/Downloads

2. ไปที่ Applications -> System Tools ->  Terminal


3. เปลี่ยนจาก user ไปเป็น root ใช้คำสั่ง sudo -s แล้วยืนยัน password ของ user
     

4. ถ้าเป็น Fedora 15 จะมี OpenJDK ติดมาให้เป็นเวอร์ชั่น 1.6.0_xx ให้ลองใช้คำสั่ง java -version เพื่อตรวจสอบก่อนว่ามี JDK มาให้แล้วหรือไม่

        4.1 ถ้าของเดิมเป็น Version ที่เก่ากว่า ให้ลบทิ้งไปเลยด้วยคำสั่ง yum remove java* แล้วตอบ y ถ้าเรียบร้อยจะขึ้นข้อความว่า Complete !

        4.2 ลองใช้คำสั่ง java -version ดูอีกทีว่ายังมี java ติดมาอีกหรือป่าว ถ้าไม่จะขึ้นเหมือนในภาพด้านล่าง ซึ่งจะสังเกตุว่า PATH เดิม ได้ชี้ไปที่ /usr/bin/java (ซึ่งในบทความนี้จะเปลี่ยนไปยัง PATH ใหม่)

5. ใช้คำสั่ง cd /usr เพื่อไปยังไดเร็กทอรี่ usr ที่ root จากนั้นสร้างไดเร็กทอรี่ java ด้วยคำสั่ง mkdir java
    
     
6. จากนั้นย้ายหรือ coppy ไฟล์ jdk ที่ได้ดาวน์โหลดมา ไปไว้ที่ไดเร็กทอรี่ java ที่ได้สร้างขึ้น


        EX. ตัวอย่างการใช้คำสั่ง ย้าย หรือ ก็อปปี้ พิมพ์   mv หรือ cp  วรรค ต้นทาง วรรค  ปลายทาง

        เมื่อทำการก็อปปี้เสร็จแล้ว ลองเข้าไปดูที่ไดเร็กทอรี่ปลายทาง จะมีไฟล์ jdk-x-linux-x64.tar.gz

7. ทำการแตกไฟล์โดยใช้คำสั่ง tar zxvf jdk-<version>-linux-x64.tar.gz


จะได้ไดเร็กทอรี่ jdk1.7.0_01 ดังรูป


        จากนั้นให้ลบไฟล์ .tar.gz ทิ้งไปถ้าไม่ต้องการ ด้วยคำสั่ง rm  jdk-x-linux-x64.tar.gz


8. เซ็ต JAVA_HOME โดยใช้คำสั่ง export JAVA_HOME=/usr/java/jdk1.7.0_01


9. เซ็ต PATH โดยใช้คำสั่ง export PATH=$PATH:/usr/java/jdk1.7.0_01/bin

10. ใช้คำสั่ง echo $JAVA_HOME และ echo $PATH

11. ลองใช้คำสั่ง java -version อีกทีเพื่อดูว่า PATH ได้ชี้ไปยัง java ที่เราติดตั้งแล้วหรือไม่


12. ทดสอบรัน java คลาส ดาวน์โหลด HelloJavaOnLinux.java จากนั้นสร้างไดเร็กทอรี่ /usr/myjava แล้วย้ายไฟล์ .java ไปไว้ในไดเร็กทอรี่
        12.1 เข้าไปที่ไดเร็กทอรี่ myjava ใช้คำสั่ง cd /usr/myjava
        12.2 ใช้คำสั่ง javac HelloJavaOnLinux.java (compile จะได้ .class)
        12.3 ใช้คำสั่ง java HelloJavaOnLinux (run .class ที่ได้จากการ compile)


        12.4 ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดก็จะปรากฎข้อความว่า "Hello Java On Linux"

        เป็นอย่างไรบ้างครับ สำหรับการ set environment java บน Linux OS ถ้าอธิบายตรงไหนไม่เข้าใจก็ขออภัยไว้ด้วยแล้วกันครับ เนื่องจากผมเองไม่ได้ยึดตามทฤษฎีอะไร ใช้เพียงประสบการณ์ที่ได้ปฎิบัติมาเท่านั้น หวังว่า blog แรกนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับทุก ๆ คน นะครับ ไว้บทความหน้าเราจะมาลองรัน Java Application บน Linux กันดูบ้าง



1 ความคิดเห็น: